ซาพรอล Saprol ป้องกันและกำจัดเชื้อรา ไตรโรฟีน 100 ml.
ชื่อสามัญ : ไตรโฟรีน (triforine) ......................................................................................................19% EC กลุ่มสาร : Piperazine [กลุ่ม 3] คุณสมบัติ : - สารป้องกันกำจัดโรคพืชชนิดดูดซึม ที่สามารถดูดซึมเข้าได้ทั้งทางรากและทางใบ อีกทั้งสามารถเคลื่อนย้ายเข้าสู่ภายในเนื้อเยื่อของใบพืชได้อย่างรวดเร็ว - มีประสิทธิภาพสูงทั้งการกำจัดและป้องกันจากการเข้าทำลายของโรคพืช - องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้ซาพรอลเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่พบอันตรายแบบเฉียบพลันในการใช้ตามปกติ ซึ่งเป็นระดับของสารที่มีความเป็นพิษต่ำที่สุด ส่วนองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (EPA) ได้จัดให้อยู่ใน Class IV ซึ่งเป็นระดับของสารที่มีความเป็นพิษต่ำที่สุดเช่นกัน - มีความเป็นพิษต่ำต่อสัตว์เลือดอุ่น นก และไส้เดือนดิน - ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม แมลงที่เป็นประโยชน์ เช่น ไรตัวห้ำ ผึ้ง รวมถึงสัตว์น้ำอื่นๆ เช่น ปลา - ซาพรอล สามารถสลายตัวได้เร็วในดิน จึงเป็นสารป้องกันกำจัดโรคพืชที่สามารถนำมาใช้ในการทำการเกษตรแบบผสมผสาน (IPM) หรือใช้ในการผลิตพืชผักปลอดภัยจากสารพิษได้ดี อัตราและวิธีการใช้ : - โรคราแป้งในเงาะ ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา Oidium sp. ใช้อัตรา 20 ซีซี พ่นเมื่อพบโรคในระยะผลอ่อน พ่นซ้ำทุก 7 วัน - โรคไหม้ในข้าว ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา Pyricularia oryzae ใช้อัตรา 40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่น 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อพบการระบาดของโรค ครั้งที่สองหลังจากพ่นครั้งแรก 7 วัน และพ่นซ้ำอีกครั้งในระยะข้าวออกรวง 5 เปอร์เซ็นต์
- ข้าว ป้องกันกำจัดโรคใบไหม้ ที่เกิดจากเชื้อสาเหตุ Pyricularia grisea (Cooke) Saccardo. อัตรา 20-30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วเมื่อพบการระบาดของโรคใบไหม้ในข้าว และพ่นซ้ำทุก 7วัน - กุหลาบ โรคใบจุดสีดำ ที่มีสาเหตุจากเชื้อ Marssonina rosae (Lib) Lind. อัตรา 30-40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตรพ่นให้ทั่วเมื่อพบการระบาดของโรคใบจุดสีดำในกุหลาบ พ่นซ้ำทุก 5 วัน
หมายเหตุ - ห้ามเก็บเกี่ยวเงาะ ภายใน 7 วันหลังจากพ่นสารครั้งสุดท้าย - ห้ามเก็บเกี่ยวข้าว ภายใน 30 วันหลังจากพ่นสารครั้งสุดท้าย
(4.63)
(4.47)
(4)